สู้ภัยแล้ง! ‘ทำนาล้อยาง’ แนวทางเศรษฐกิจพอเพียง

สำหรับปัจจุบันสภาวะภัยแล้ง ถือเป็นผลกระทบหลักที่ทำให้เกษตรกรต้องเจอกับปัญหาการขาดทุน โดยเฉพาะการปลูกข้าว ที่เป็นพืชที่ต้องใช้ปริมาณน้ำในการเพาะปลูกเป็นอย่างมาก แต่ขณะนี้มีเกษตรกรบางรายที่สามารถนำแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง มาดัดแปลงใช้กับสภาวะภัยแล้งในปัจจุบันได้ คือการปลูกข้าวในยางรถยนต์ ที่ไม่ต้องใช้น้ำในปริมาณมากเหมือนการทำนาทั่วไป อีกทั้งยังไม่ต้องมีนา ก็สามารถปลูกต้นข้าวได้อย่างสมบูรณ์ รวมทั้งไม่มีปัญหาโรคและแมลงศัตรูพืชอีกด้วย นายคำนึง นวลมณีย์ หัวหน้าศูนย์การเรียนรู้นวัตกรรมใหม่เพื่อเศรษฐกิจพอเพียง จ.สงขลา…

Home / NEWS / สู้ภัยแล้ง! ‘ทำนาล้อยาง’ แนวทางเศรษฐกิจพอเพียง

สำหรับปัจจุบันสภาวะภัยแล้ง ถือเป็นผลกระทบหลักที่ทำให้เกษตรกรต้องเจอกับปัญหาการขาดทุน โดยเฉพาะการปลูกข้าว ที่เป็นพืชที่ต้องใช้ปริมาณน้ำในการเพาะปลูกเป็นอย่างมาก

แต่ขณะนี้มีเกษตรกรบางรายที่สามารถนำแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง มาดัดแปลงใช้กับสภาวะภัยแล้งในปัจจุบันได้ คือการปลูกข้าวในยางรถยนต์ ที่ไม่ต้องใช้น้ำในปริมาณมากเหมือนการทำนาทั่วไป อีกทั้งยังไม่ต้องมีนา ก็สามารถปลูกต้นข้าวได้อย่างสมบูรณ์ รวมทั้งไม่มีปัญหาโรคและแมลงศัตรูพืชอีกด้วย

ทำนาล้อยาง

นายคำนึง นวลมณีย์ หัวหน้าศูนย์การเรียนรู้นวัตกรรมใหม่เพื่อเศรษฐกิจพอเพียง จ.สงขลา อายุ 50 ปี อาศัยอยู่พื้นที่หมู่ 10 ต.จะโหนง อ.จะนะ จ.สงขลา เปิดเผยว่า การปลูกข้าวนอกนา สามารถปลูกร่วมกับพืชอื่นๆได้ในพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งเป็นการใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

การทำนาบก มีข้อดีหลายอย่าง คือ

1.เพื่อเป็นการประหยัดพื้นที่ในการปลูกข้าวโดยไม่ต้องมีพื้นที่มากก็สามารถปลูกข้าวได้ เช่น บริเวณบ้าน พื้นที่โล่ง ๆ

2.ประหยัดน้ำ , ปุ๋ย และสามารถดูแลรักษา กำจัดวัชพืช, ศัตรูพืช ด้วยระบบอินทรีย์ได้ง่าย

3.สามารถปลูกข้าวได้ตามต้องการ ไม่ต้องเพาะปลูกตามฤดูกาล

4.สามารถปลูกข้าวได้หลายรุ่น เหมาะกับการปลูกข้าวในระดับครัวเรือนตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ลดค่าใช้จ่ายภายในครัวเรือน

5.สามารถควบคุมคุณภาพผลผลิตได้เป็นอย่างดี

การทำนาชีวภาพในบ่อซีเมนต์และล้อรถยนต์แทนการปลูกในแปลงนานั้น สามารถทำนาได้ถึง 4 รอบ ต่อปี ที่สำคัญเมื่อเก็บเกี่ยวเสร็จแล้วก็ลงมือดำนารอบใหม่ได้ทันที อีกทั้งยังได้ข้าวที่มีคุณภาพ ต้นทุนต่ำ และ ปลอดสารพิษ

สำหรับวิธีการทำนาที่ว่านี้มี 3 แบบ ด้วยกัน คือ แบบแรกปลูกในบ่อซีเมนต์ โดยการนำอิฐบล็อกมาก่อเป็นแปลงนาความกว้าง 4 เมตร ยาว 22 เมตร สูง 40 เซนติเมตร แล้วเทลาดพื้นด้วยซีเมนต์ตามความเหมาะสมของขนาดพื้นที่ ส่วนแบบที่ 2 จะปลูกในท่อซีเมนต์ โดยนำท่อมาลาดพื้นด้วยซีเมนต์ และแบบที่ 3 ปลูกในล้อรถยนต์ โดยนำล้อรถยนต์ทั้งเส้นมาลาดพื้นด้วยซีเมนต์ เสร็จแล้วก็ใส่น้ำลงไป และปลูกข้าวได้ทันทีไม่ต้องใส่ดิน

12189899_909849019052692_8804747795651875358_n

โดยวิธีการดำนาทั้ง 3 แบบ จะเหมือนกัน คือ ใช้วิธีปักต้นกล้าลงในถุงพลาสติกดำขนาด 6 คูณ 8 เซนติเมตร ซึ่งใส่ดินเอาไว้ และแช่ลงไปในน้ำให้พอมิดถุง โดยทิ้งระยะห่างของต้นกล้าเหมือนกับการดำนาทั่วๆไป เป็นอันเสร็จ ส่วนระยะเวลาในการปลูกก็เหมือนกับการทำนาปกติ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 120 วัน หรือ 3 เดือน ก็เก็บเกี่ยวผลผลิตได้ทันที

วัสดุอุปกรณ์ในการนำมาปลูกข้าว
1. ล้อยางรถยนต์เก่า หรือภาชนะอื่น ๆ ที่มี (ตามแต่ต้องการ)
2. แผ่นพลาสติกสำหรับรองก้นล้อยางรถยนต์เพื่อเก็บน้ำไว้ในล้อ ยาง
3. ดินสำหรับปลูก
4. ปุ๋ยคอก, ปุ๋ยหมัก , น้ำ
5. ต้นกล้าข้าวที่ต้องการนำมาปลูก

วิธีเตรียมนาล้อยาง
ใช้มีดกรีดตัดล้อยาง โดยเริ่มจากใช้มืดกดด้านเว้าข้างในของล้อยางข้างบน กรีดมีดที่มุมล้อด้านนอก ของด้านบนล้อยาง ล้อยางที่กรีดจะมีลักษณะถูกเปิดกว้าง 1 ด้าน เพื่อให้สามารถใส่ดินลงไปได้ นำล้อยางที่กรีดแล้วไปวางไว้ตรงบริเวณที่เตรียมไว้จากนั้นใช้ปูนผสมกับทรายหยาบ

เทลงไปตรงส่วนที่มองเห็นดินโดยให้สูงจากขอบแก้มยาง 1 นิ้ว เมื่อปูนแห้งใช้น้ำยากันซึมผสมกับปูนฉาบลงไปอีก 2 ครั้ง เมื่อแห้งแล้วใส่ดินที่เตรียมไว้ลงไปซัก 3 บุ้งกี๋ เททับด้วยขี้วัวอีก 1 กระสอบเล็กแล้วใส่ดินลงไปให้เต็ม แล้วทำการใส่น้ำทิ้งไว้ 2 ถึง 3 วัน ดินจะยุบลงไปเหลือพื้นที่พอดีใส่น้ำ เมื่อใส่ดินดีแล้ว ใส่น้ำดีแล้ว จึงนำกล้าที่เตรียมไว้มาดำ โดยอายุกล้าของต้นข้าวประมาณ 20 ถึง 25 วัน

วิธีการปลูกข้าว
1. วางล้อยางรถยนต์ให้อยู่ในพื้นที่ที่มีแสงแดดไม่น้อยกว่า 60%
2. ใส่ดินลงไปในล้อยางรถยนต์ 1 ส่วน เพื่อรองก้น
3. ใช้พลาสติกปูลงไปในล้อยางรถยนต์ (ใช้เพื่อกักเก็บน้ำ)
4. ใส่ดิน 3 ส่วน ลงไปบนพลาสติก
5. ใส่ปุ๋ยคอก ครึ่งส่วน โดยไม่ต้องผสมกับดิน
6. ใส่น้ำให้เต็มล้อยางรถยนต์ (ประมาณ 20 ลิตร)
7. นำต้นกล้าข้าวปลูก 5 – 8 ต้น ต่อ 1 ล้อยางรถยนต์

12189662_909849662385961_259246266059596168_n

นายคำนึง กล่าวต่อว่า การทำนาด้วยวิธีดังกล่าวจะใช้น้ำน้อย ดูแลง่ายมาก และต้นทุนต่ำ ซึ่งทำได้ทั้งนาลุ่มนาดอน เป็นการทำนาแบบชีวภาพร้อยเปอร์เซ็นต์ เนื่องจากใช้เพียงปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพที่ทำขึ้นเอง และแหนแดง ซึ่งเป็นปุ๋ยพืชสด ไม่ใช้สารเคมีหรือยาฆ่าแมลง ทำให้ได้ข้าวที่มีคุณภาพ ปลอดสารพิษ รวงยาว เมล็ดเต็ม ไม่ลีบ

ที่สำคัญเมื่อเกี่ยวข้าวแล้วเสร็จ ยังสามารถนำต้นกล้าใหม่ที่เพาะชำไว้มาปลูกแทนได้ทันที เรียกว่า เกี่ยวเช้าดำเย็น เพียงแค่นำต้นกล้าใหม่ที่ชำไว้มาปักในถุงดินอันเดิมได้เลย ไม่ต้องทำใหม่ ปักได้ทั้งบนถุง ข้างถุง ท้ายถุง หมุนเวียนสลับกันไปได้เรื่อยๆ โดยไม่ต้องเปลี่ยนถุงดิน

สำหรับผลผลิตที่ได้หลังจากทำนาด้วยวิธีนี้มา 3 ปี หรือ 12 รุ่น เนื้อที่รวมกันทั้งหมดประมาณ 500 ตารางเมตร โดยใช้ข้าวพันธุ์ดอกพะยอม ได้ข้าวรุ่นละประมาณ 7 ถัง ซึ่งเพียงพอสำหรับกินในครัวเรือนตลอดทั้งปี

ข้าวล้อยาง

การทำนาบกนี้ ใช้เวลา 3 เดือนโดยประมาณ ก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ ในพื้นที่ปลูก 1 วงล้อยางรถยนต์ จะได้ข้าวเปลือก 1 กิโลกรัม เมื่อนำมาสีจะได้ข้าวสาร ประมาณ ครึ่งกิโลกรัม วิธีการทำนาบก เป็นการปลูกข้าวแบบง่ายๆ สำหรับผู้ที่ต้องการปลูกไว้เพื่อนำมาบริโภคในครัวเรือนตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง

 

ขอบคุณข้อมูลจาก เพจเกษตรก้าวหน้า

ติดตามข่าวสารอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ news.mthai.com

MThai News